SpaceX ลากดาวเทียมอินเทอร์เน็ต Starlink อีก 54 ดวงเข้าสู่วงโคจร

งจาก SpaceX และ T-Mobile เปิดเผยแผนการที่จะใช้ยานอวกาศ Starlink รุ่นใหม่เพื่อให้การเชื่อมต่อที่แพร่หลายกับโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่การปล่อยจรวด Falcon 9 จาก Space Launch Complex 40 ที่ Cape Canaveral Space Force Station เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:41 น. EDT ในวันเสาร์ (0341 GMT วันอาทิตย์) เพื่อเริ่มการเปิดตัว SpaceX

ครั้งที่ 38 ของปีสิบห้านาทีต่อมา เวทีบนของ Falcon 9 ปล่อยกลุ่มดาวเทียมอินเทอร์เน็ต Starlink ขึ้นสู่วงโคจรโดยมีเป้าหมายระหว่าง 144 ไมล์ถึง 208 ไมล์ (232 x 336 กิโลเมตร) ตัวเรียกใช้มุ่งเป้าไปที่ความเอียงของวงโคจร 53.2 องศาไปยังเส้นศูนย์สูตร

• บทความอื่น ๆ : foxtrotexas.com

สภาพอากาศไม่แน่นอนในคืนวันเสาร์ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและฟ้าผ่าในบริเวณรอบ ๆ จุดปล่อย SpaceX ข้ามโอกาสในการเปิดตัวเมื่อเวลา 22:22 น. ตามเวลา EDT (0222 GMT) เนื่องจากพายุ แต่สภาพอากาศดีขึ้นเป็นครั้งที่สองในการเปิดตัวสองครั้งในวันเสาร์ เวลา 23:41 น.การเปิดตัวในคืนวันเสาร์ที่รู้จักกันในชื่อ Starlink 4-23

บรรทุก Starlink 54 รายการ มากกว่าภารกิจล่าสุดของ SpaceX ไปยังวงโคจรเดียวกัน SpaceX ได้ทดลองกับการตั้งค่าคันเร่งของเครื่องยนต์และการอัพเกรดเล็กน้อยอื่น ๆ เพื่อขยายความสามารถในการยกของ Falcon 9ดาวเทียม 53 ดวงในเที่ยวบินล่าสุดของ Starlink ได้เพิ่มประสิทธิภาพการบรทุกของจรวดให้สูงสุด ซึ่งแสดงถึงน้ำหนักบรรทุกที่หนักที่สุดที่เคยเปิดตัวใน Falcon 9

การเพิ่มดาวเทียมอีกหนึ่งดวง – ยาน Starlink แต่ละลำมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งในสี่ตัน – อาจแนะนำ SpaceX ได้ปรับปรุงความจุของซองจดหมายบรรทุกของ Falcon 9 เล็กน้อยและดาวเทียมในเที่ยวบินของคืนวันเสาร์เพิ่มขึ้นเป็นสินค้าที่หนักที่สุดที่เคยอยู่บน ภารกิจ SpaceX ตาม Jessie Anderson วิศวกร SpaceX และผู้วิจารณ์เกี่ยวกับเว็บคาสต์เปิดตัวของบริษัท

มวลน้ำหนักบรรทุกรวมที่มีดาวเทียม Starlink 54 ดวงเพิ่มขึ้นมากกว่า 36,800 ปอนด์หรือ 16.7 เมตริกตัน Anderson กล่าวการเปิดตัวภารกิจ Starlink 4-23 เกิดขึ้นประมาณ 33 ชั่วโมงก่อนที่ NASA จะเปิดตัวจรวดดวงจันทร์ Artemis 1 ขนาดยักษ์จากศูนย์อวกาศเคนเนดีที่อยู่ใกล้เคียง จรวด Space Launch System ยืนอยู่บนแผ่นรอง 39B ที่ Kennedy ประมาณ 8 กิโลเมตรทางเหนือของจุดปล่อยของ Falcon 9 ที่ pad 40

จรวด SpaceX Falcon 9 ยืนอยู่บน Space Launch Complex 40 ที่ Cape Canaveral Space Force Station ก่อนขึ้นเครื่องด้วยภารกิจ Starlink 4-23 เครดิต: Stephen Clark / Spaceflight Nowการเปิดตัว Starlink ล่าสุดของ SpaceX เกิดขึ้นสองวันหลังจากที่บริษัทประกาศข้อตกลงกับ T-Mobile เพื่อใช้ดาวเทียม Starlink รุ่นต่อไปเพื่อเชื่อมโยงโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม Starlink รุ่นที่สองมีขนาดใหญ่กว่าการออกแบบในปัจจุบันมากและจะเปิดตัวจรวด Starship ขนาดใหญ่ใหม่ของ SpaceX ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

Elon Musk ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ SpaceX ได้เข้าร่วมกับ Mike Sievert ผู้บริหารระดับสูงของ T-Mobile สำหรับการประกาศที่ฐานปล่อย Starship ของ SpaceX ในเซาท์เท็กซัส

การออกแบบดาวเทียม Starlink ใหม่ที่เรียกว่า Starlink V2 มีขนาดประมาณ 23 ฟุต (7 เมตร) มันจะโฮสต์เสาอากาศสื่อสาร Ku-band, Ka-band และเลเซอร์ที่คล้ายคลึงกันซึ่งบินบนดาวเทียม Starlink รุ่นปัจจุบัน แต่จะเพิ่มเสาอากาศสเปกตรัมเซลล์ที่ปรับใช้ได้ซึ่งมีขนาดประมาณ 270 ตารางฟุต (25 ตารางเมตร) Musk กล่าว

เสาอากาศขนาดใหญ่นั้นจะมีความไวในการรับสัญญาณจาง ๆ จากโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่“มันเหมือนกับการวางหอคอยเซลลูลาร์บนท้องฟ้า ยากกว่ามาก และนั่นเป็นเหตุผลที่เรามาที่นี่กับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่ SpaceX เพราะเรากำลังใช้คลื่นความถี่ที่โทรศัพท์ของคุณรู้อยู่แล้ว … วิธีเชื่อมต่อ ” ซีเวิร์ตกล่าว “อันที่จริง โทรศัพท์ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ ความทะเยอทะยานของเราคือให้พวกเขาทำงานนอกประตูด้วยสิ่งนี้”

SpaceX และ T-Mobile ต้องการให้ระบบ Starlink V2 ใช้งานได้ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อเริ่มการทดสอบเบต้า SpaceX ยานปล่อยยานอวกาศ Starship ต้องการใช้สำหรับการเปิดตัวดาวเทียม Starlink V2 ที่ยังไม่ได้บินขึ้นสู่วงโคจร

Muskกล่าวว่าSpaceXกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาชั่วคราว”เพื่อพัฒนาดาวเทียมStarlinkV2รุ่นเล็กที่สามารถติดตั้งบนจรวด Falcon 9 ได้ “หากโปรแกรมStarshipล่าช้ากว่าที่คาดไว้”การออกแบบพื้นฐานStarlinkV2ให้มีขนาดใหญ่สำหรับการเปิดตัว Falcon 9

ด้วยภารกิจ Starlink 4-23 คืนวันเสาร์ SpaceX ได้เปิดตัวดาวเทียมอินเทอร์เน็ต Starlink จำนวน 3,162 ดวง รวมถึงต้นแบบและหน่วยทดสอบที่ไม่ได้ให้บริการอีกต่อไป การเปิดตัวในวันเสาร์เป็นภารกิจ SpaceX ครั้งที่ 57 ที่อุทิศให้กับการลากดาวเทียมอินเทอร์เน็ต Starlink ขึ้นสู่วงโคจร

ทีมปล่อยจรวดของ SpaceX ซึ่งประจำการอยู่ภายในศูนย์ควบคุมการปล่อยจรวดทางใต้ของสถานี Cape Canaveral Space Force เริ่มบรรจุเชื้อเพลิงจรวดนำพาออกซิเจนเหลวและน้ำมันก๊าดอัดน้ำแข็งที่เย็นจัดเป็นพิเศษลงในยานพาหนะ Falcon 9 สูง 229 ฟุต (70 เมตร) ที่ T-minus 35 นาที.

แรงดันฮีเลียมยังไหลเข้าสู่จรวดในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการนับถอยหลัง ในช่วงเจ็ดนาทีสุดท้ายก่อนออกบิน เครื่องยนต์หลักของ Merlin ของ Falcon 9 ได้รับการปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมสำหรับการบินผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า “การผ่อนคลาย” ระบบนำทางและระยะปลอดภัยของ Falcon 9 ได้รับการกำหนดค่าสำหรับการเปิดตัวด้วยเช่นกัน

หลังจากการยกตัวขึ้น จรวดฟอลคอน 9 ได้ส่งแรงขับ 1.7 ล้านปอนด์ ซึ่งผลิตโดยเครื่องยนต์เมอร์ลิน 9 ตัว เพื่อบังคับทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก

จรวดมีความเร็วเหนือเสียงในเวลาประมาณหนึ่งนาที จากนั้นดับเครื่องยนต์หลักทั้งเก้าเครื่องหลังจากปล่อยออกสองนาทีครึ่ง บูสเตอร์สเตจที่ปล่อยออกมาจากสเตจบนของ Falcon 9 จากนั้นจึงยิงพัลส์จากตัวขับดันควบคุมแก๊สเย็นและครีบกริดไททาเนียมที่ขยายออกเพื่อช่วยบังคับรถกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ

การเบรกสองครั้งทำให้จรวดช้าลงเมื่อลงจอดบนเรือโดรน “A Shortfall of Gravitas” ประมาณ 400 ไมล์ (650 กิโลเมตร) ลดลงประมาณแปดนาทีครึ่งหลังจากการยกตัว